การร้อยไหมรุ่นใหม่ PCL (K2 Lift)

พัฒนาการของเทคนิคการร้อยไหม

 	
ยุคแรก ใช้ไหมไม่ละลาย เช่น Aptos Threads หรือไหมทองคำ ซึ่งมีข้อจำกัดและผลข้างเคียงในระยะยาว ทำให้ปัจจุบันไม่นิยม
 	
รุ่นใหม่ ๆ พัฒนาเป็นไหมละลาย เช่น PDO (Polydioxanone), PLLA (Poly L-Lactic Acid) จนถึง PCL (Polycaprolactone)
ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและใช้เวลาย่อยสลายนาน 2–3 ปี
 	
การร้อยไหมจึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในกลุ่มหัตถการยกกระชับที่ไม่ต้องผ่าตัด

จุดเด่นของร้อยไหม PCL (K2 Lift)

 	
ใช้เส้นไหมละลายที่มีโครงสร้างพิเศษ ทำให้ยึดเกาะกับชั้นผิวได้ดีขึ้น
 	
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบ ๆ เส้นไหม จึงช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
 	
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
 	
สามารถใช้ได้หลายตำแหน่ง เช่น ใบหน้า คาง คอ หรือบางกรณีใช้กับร่างกายบางส่วน เช่น ต้นแขน

รูปแบบของเส้นไหมที่ใช้

 	
Mono / Spiral : ใช้เพื่อเติมเต็มและฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบเนียน
 	
Screw (สปริง) : มีลักษณะเกลียว ช่วยให้ร่องแก้มและรอยย่นบางส่วนดูตื้นขึ้น
 	
Cog / Barb (ไหมเงี่ยง) : มีเงี่ยงช่วยเพิ่มแรงยกกระชับ นิยมใช้กับใบหน้าและกรอบหน้า
 	
Cone (ไหมกรวย) : มีกรวยช่วยรั้งชั้นผิว แต่บางกรณีอาจคลำได้ จึงต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์

การร้อยไหม PCL เหมาะกับใคร?

 	
ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
 	
ผู้ที่ต้องการปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
 	
ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น

การฟื้นตัวหลังทำ

 	
หลังทำอาจมีอาการบวม ช้ำ หรือรู้สึกตึงผิวบริเวณที่ร้อยไหม ซึ่งโดยทั่วไปจะค่อย ๆ ดีขึ้นในไม่กี่วัน
 	
สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยแพทย์อาจแนะนำให้เลี่ยงกิจกรรมที่กดหรือกระทบกับใบหน้าในช่วงแรก
 	
ผลลัพธ์และระยะเวลาการคงอยู่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังทำ

 

สรุป

ร้อยไหม PCL (K2 Lift) เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวที่พัฒนามาจากไหมรุ่นก่อน ๆ โดยมีคุณสมบัติเด่นในด้านความยืดหยุ่นและระยะเวลาการคงตัวที่ยาวนานขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดและมองหาทางเลือกในการปรับรูปหน้า การเลือกทำควรอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวและโครงหน้าของแต่ละบุคคล